วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2558

กล้วยแยกหวี

ผมเป็นคนชอบกินกล้วยและเชื่อในประโยชน์ของกล้วยมาก ตอนที่ Top Supermarket เริ่มเอากล้วยหอมท่ายาง เพชรบุรีแยกหวี มาเป็นแพ็ค ละ 4 ผลขายแพ็คละ 39 บาทผมก็ซื้อเขากินประจำ ส่วนคุณที่เป็นแฟนห้างอื่นอาจจะงงกับราคานิดหน่อย เพราะกล้วยแพ็ค 4 ผลเท่ากันและนำเข้าจากฟิลิปปินส์เขาขายแค่ 19 บาท แต่ถ้าคุณเป็นนักอ่านฉลาก คุณจะทราบได้ทันทีว่ากล้วยหอมท่ายาง (เกรดส่งออกญี่ปุน) เป็นการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ปราศจากเคมีและสารพิษ และดิน น้ำ อากาศเขาเหมาะสม ถึงตอนนี้ทั้งห้างใหญ่ ห้างเล็ก รวมถึงร้านสะดวกซื้อก็มีกล้วยแยกหวีแพ็คเล็ก ขายหมด เร็ว นี้ นสพ.ประชาชาติธุรกิจรายงานว่าสหกรณ์ฯท่ายางส่งกล้วยหอมจำหน่าย ผ่านเซเว่น  28,000 ลูกต่อวัน เห็นตัวเลขนี้ผมก็ดีใจว่าคนไทยไม่ทิ้งกล้วยที่เป็นผลไม้สุขภาพชั้นเลิศ เพียงอยากแต่จะเชียร์ให้คุณ บอกลูกหลานทิ้งไส้กรอกมากินกล้วยกันเพิ่มขึ้นไปอีกจ้า มา กินกล้วยกัน


วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558

แกงส้มดอกแคมาแว้ว

เมื่อเช้าผมฟังวิทยุ FM 99 , ป๋าแป๊ะ บอกคนใน อสมท.ไม่สบายกันเกินครึ่งเนื่องจากอากาศเปลี่ยน ผมเลยต้องงัดวิชาสุดยอดอาหารแกงส้มดอกแค (ที่เขารู้กันทั้งเมือง) และพุงปลาช่อนมาช่วยกันโฆษนา เพื่อให้คุณ ๆ ได้ใช้ป้องกันไข้หัวลมกันจ๊ะ แกงส้มดอกแคหนึ่งถ้วย จะให้คุณได้รับวิตามิน เอ บี ซี รวมทั้งพระเอกของผมโอเมก้า 3 ที่ได้จากกะปิ แถมรสขมผสมตัวยาเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจากดอกแค ส่วนปลาช่อนที่เป็นโปรตีนชั้นเลิศจากแผ่นดินจะทำให้คุณมีโปรตีนดี ๆ ไปเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอ แต่ก็แหม แกงส้มมันเปรี้ยวนะ ขอไขมันจากพุงปลาไปสร้างความมันนิด ๆ ให้ซดแกงอร่อย ๆ ต้านความเย็น แล้วเวลาคุณหั่นปลาเป็นท่อน ๆ คุณก็ไม่ต้องเอาไส้ปลาออกนะจ๊ะ ปล่อยให้สามประสานคือเครื่องแกงส้มรวมน้ำมะขามเปียก ดอกแค และไส้ปลาทำหน้าที่สมุนไพรต้านไข้ให้คุณจ้า  

วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2558

น้ำพริกอย่างย่อ

หลัง ๆ นี้ผมอ่านไลน์ที่คนเขาโปรโมทมะกรูด มะนาว ต้านมะเร็งแล้วก็ขำ บรรพบุรุษเราใช้มะกรูด มะนาว มะขาม หอม กระเทียม กะปิ น้ำปลา ฯลฯ มาสร้างอาหารต้านโรค แบบที่ว่า มะนาวโซดา ที่ฝรั่งเอามารายงานว่าดีนั้นเทียบไม่ได้เลยจ้ะ วันนี้จะขอใช้ศัพท์ทางการสักหน่อย น้ำพริกหนึ่งถ้วยประกอบด้วยสารสำคัญทั้งแคลเซี่ยม ฟลาวานอยด์ ไบโอฟลาวานอยด์ อัลลิซิน กรดแอสคอบิก กรดมาลิค โอเมก้า 3 แคปไซซินและอื่น ๆ อีก A ถึง Z อย่างนี้ต้องเรียกซุปเปอร์อาหารต้านโรค หรือ ซุปเปอร์แอนตี้อ๊อกซิแด้นท์แล้วหล่ะ แต่ทุกวันนี้คุณและผมไม่ได้อยู่ยุคขวัญ-เรียม คุณก็จะอ้างว่าคุณไม่มีเวลาตำน้ำพริกใช่ไหมจ๊ะ เอาหล่ะ ๆ คุณโปรดใช้รูปย่อของน้ำพริก ที่เราเรียกว่าน้ำปลาพริก คือน้ำปลา พริกขี้หนู  มะนาว กระเทียมหรือหอม มาทดแทนน้ำพริกจ้ะ อย่าเสียโอกาสต้านโรคคือกินกันแค่ พริกกับน้ำปลา อย่างทุกวันนี้ ถึงผมจะเสียใจที่น้ำพริกหลายชนิดหายไปตามวิถีชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบันแต่ได้โปรดใช้น้ำปลาพริก (รวมมะนาว กระเทียมหริอหัวหอม) มาใช้ป้องกันโรค และรักษาสุขภาพคุณจ้า

วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2558

น้ำตาลกินได้ แต่อย่าเยอะ

ในเชิงของนักรักสุขภาพแล้วน้ำตาลทรายขาวเป็นวายร้ายอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ ท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ถึงกับเคยเขียนประมาณว่าน้ำตาล (ทรายขาว) เป็นสิ่งผิดพลาดที่มนุษย์สร้างขึ้นมา มีงานวิจัยมากมายที่บ่งบอกว่าน้ำตาลมีโทษมหาศาลและเป็นอาหารของมะเร็ง คุณกินน้ำตาลหนึ่งครั้งมันจะก่อกวนคุณไปหลายชั่วโมงเลยจ้ะ คุณลองสังเกตุตัวคุณเองนะจ๊ะว่าเวลาเราทานของหวานเข้าไปแล้วคุณอาจตาพร่า ง่วงนอน ไม่กระปรี้กระเปร่า นั่นละฤทธิ์ของน้ำตาลเขาละ ฉะนั้นจะว่าไปแล้วเราก็ควรงดน้ำตาลทรายขาวเสียให้ขาด แต่สำหรับคุณ ๆ ที่ชีวิตไม่อาจขาดความรัก อ๊ะขอโทษ ความหวาน ผมมีข่าวดีมาบอก น้ำตาลในตำราไทยและจีน นั้นมีใช้กันหลากหลายถ้าใช้เหมาะสมก็บำรุงกำลังและสุขภาพเราได้ แต่น้ำตาลที่ผมพูดถึงนี้คือน้ำตาลที่ไม่ผ่านกระบวนการผลิตแบบอุตสาหกรรม ซึ่งได้แก่ น้ำอ้อยสด น้ำตาลสดทั้งจากงวงมะพร้าวและงวงตาล น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลปึก น้ำตาลโตนด น้ำตาลทรายแดง (แบบที่โรยเฉาก๊วย) ซึ่งทั้งหมดนี้ยังมีสารอาหารและกรดอะมิโนที่ดีต่อสุขภาพเยอะแยะจ้ะ แต่ของหวานคือของหวาน ทานได้แต่อย่าเยอะ ปรุงขนมหวานครั้งต่อไปเลิกใช้น้ำตาลทรายขาวกันไปเลยจ้า

วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เอเชียทีค

หลายสัปดาห์ก่อนผมทนเสียงลือเสียงเล่าอ้างเกี่ยวกับเอเชียทีคไม่ไหว ผมเลยนั่งรถไฟฟ้าตามลายแทงไปเที่ยวเอเชียทีคจ้ะ พอลงสถานี BTS สะพานตากสินออกประตู 2 เดินออกไปที่ท่าเรือสุดท้ายเพื่อขึ้นเอเชียทีค Shuttle Boat ก็จะเจอแถวยาว ๆ ก็ต่อคิวแถวนั้นเลยไม่ต้องุนงงและสงสัย ผมเอามาเขียนไว้เพราะเห็นฝรั่งพูดกันงง ๆ  ว่าถูกแซงคิวหรืออย่างไร คือท่านั้นมันเป็นท่าเรือของโรงแรมต่างๆ ด้วย คนที่ใช้บริการเรือโรงแรมเขาก็จะไม่ต่อคิวกับเรา เขาเดินไปรอหรือขึ้นเรือโรงแรมเลยจ้ะ อย่างภาพด้านล่างคือเรือของโรงแรมเชอราตัน



พอไปถึงเอเชียทีคผมก็เที่ยวและกินเหมือนที่เขาเขียนกันตามพันทิพแหละ แต่ผมขอเพิ่มมุมของผมหน่อย คือพื้นที่ทั้งหมดของเอเชียทีคมี 72 ไร่ถ้ากลุ่ม TCC เขาให้เช่าทำโกดังสินค้าเหมือนแต่ก่อนเขาก็น่าจะมีรายได้ต่อเดือนประมาณไม่น่าเกิน 5 ล้าน แต่หลังจากจบเฟสแรกซึ่งตามข่าวเขาลงทุนไป 1,000 ล้านบาท และตอนนี้กลายเป็นมีเงินสะพัดปีละกว่า 3000 ล้านบาท ผู้พัฒนาที่ดิน ผู้ค้า สังคมและประเทศชาติได้ประโยชน์อย่างนี้ ผมขอชื่นชมจ้ะ

พอดีผมใช้กล้องมือถือถ่ายในวันฝนพรำ ภาพอาจจะไม่สวยเท่าที่ควรแต่ขอให้ถือว่าเป็นของขวัญจากเพื่อนในวันสบาย ๆ สุดสัปดาห์นะจ๊ะ

















ทัศนียภาพขากลับ



วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ผักชุมชน 1 : พรมมิ

        ผมโชคดีที่อยู่ในชุมชนที่ดี มีเพื่อนบ้านรักกัน และแต่ละบ้านก็จะปลูกต้นไม้เก๋ไก๋แตกต่างกันไป ผมเลยมีไอเดียเรื่องการแบ่งปันพืชผักระหว่างเพื่อนบ้านมาเล่าให้คุณฟัง และผมหวังว่าจะมีเรื่องเล่าต่อไปได้ไม่ขาดสาย อยู่เมืองไทยรักกัน ๆ จ้ะ
       ในฐานะที่ตอนนนี้จะเป็นตอนแรกที่ผมเขียนเรื่องผักชุมชน ผมขอเริ่มต้นจากสมุนไพรชื่อแปลกแต่ปลูกง่ายชื่อว่า "พรมมิ" จ้ะ มีงานมีวิจัยออกมาแล้วว่าการกินพรมมิช่วยป้องกันอัลไซเมอร์ บำรุงความจำ คุณ ๆ ที่ชักจะป้ำ ๆ เป๋อ ๆ บ้างเเป็นครั้งคราวเหมือนผมน่าจะปลูกไว้กินกับน้ำพริก หรือกินเป็นผักสด รสชาติก็โอเคนะ จริงๆขม แต่ถ้ากินทีละไม่มากเกินไปจะมีความซ่าปลายลิ้นเล็กน้อย อร่อยใช้ได้ (มุมรับรสของนักกินผัก) การปลูกก็แสนจะง่ายคือแค่ปักชำและให้ถึงน้ำถึงแดดแค่นี้คุณก็จะมีต้นพรมมิแจกให้เพื่อนบ้านมากมายสบายบรื๋อ เลี้ยงง่ายโตเร็วทีเดียวเชียวแหละ ดูภาพอาจกะขนาดไม่ถูก ก้านและใบเล็กกว่าแพรเซี่ยงไฮ้ มาปลูกพรมมิกันนะจ๊ะ



วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ทำวีซ่าอเมริกา อัพเดท Oct 2015

วันนี้ขอเลิกใช้สำนวนของคุณ ประยูรที่ผมรักมาทำรายงานพิเศษสักหนึ่งวัน พอดีมีเหตุต้องไปทำวีซ่าอเมริกาเลยค้นข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ แแต่เนื่องจากข้อมูลบางอย่างผมก็หาไม่ได้จากอินเตอร์เน็ตและผมเข้าใจว่ามีการปรับเปลี่ยนวิธีการบางอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ เลยขอถือโอกาสอัพเดทและสรุปวิธีการที่ผมว่าง่ายที่สุดมาให้ในบล็อกนี้ อะไรที่เป็นเกร็ดสำคัญ ๆ ผมจะใช้ตัวสีน้ำเงินนะครับ

ขั้นตอนก่อนสัมภาษณ์

1. เตรียมมือและนิ้วทั้งสิบ - ตามที่เขียนในพันทิพเลยครับ คุณต้องถูกสแกนลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว ปัญหาที่ผมเห็นบ่อย ๆ คือสแกนไม่ค่อยติดตอนไปสัมภาษณ์ดังนั้นคุณเตรียมมือและนิ้วให้เห็นลายชัด ๆ อย่าจับของร้อนมากไปและทาโลชั่นบ่อย ๆ วันสัมภาษณ์มือคุณจะได้ชุ่มชื้นที่สุด

2. ถ่ายรูป - การกรอกฟอร์ม DS-106 นั้นต้องแนบรูปถ่ายดิจิตอลครับ ใช้มือถือดีหรือกล้อง เจ๋ง ๆ ถ่ายรูปคุณกะให้ประมาณเป็นรูป 2 x 2 นิ้ว พื้นต้องเป็นพิ้นขาวและต้องเห็นใบหูทั้ง 2 ข้าง พอได้รูปก็ลองนำไฟล์ดิจิตอลไป Test ก่อนเลยที่ https://identix.state.gov/qotw/Upload.aspx?offLwnJFx%2fOumH2xn6Soo%2f2ftITMRFrYn4rM4vhArM%2fnNqhBCkqOQNXIZGCShGc9
ถ้ารูปคุณผ่านก็เอาไฟล์ดิจิตอลที่มีไปให้ร้านถ่ายรูปอัดรูปให้ วันที่ผมไปสัมภาษณ์ถูกขอไปหนึ่งรูป เพราะภาพที่ผมอัพโหลดไปเป็นภาพที่มาจากการสแกนภาพเก่าที่ผมอัดไว้แล้ว

3. กรอกฟอร์ม DS-106 ค่อย ๆ กรอกครับ ค่อย ๆ กรอก เรากลับมาแก้ได้เสมอก่อนที่มันจะเสร็จสมบูรณ์ รายละเอียดผมขอข้ามเพราะขี้เกียจ เอ๊ย มีคนเขียนไว้เยอะแล้ว ตามนั้นเลยครับ ฟอร์ม DS-106 ที่กรอกเสร็จสมบูรณ์จะต้องมีรูปของคุณขึ้น และมี e-mail แจ้งกลับมาพร้อม ฟอร์ม DS-106 แนบมาในเมล์ ถ้าไม่มีถือว่าผิด ดูตัวล่างด้านล่างครับ



4. สร้างโปรไฟล์ - คราวนี้ลุยได้ยาวถึงการชำระค่าธรรมเนียม ถ้าคุณทำถูกคุณต้องพิมพ์ใบ Cash Deposite Instruction กับ Pay-in slip ออกมาได้ นำค่าธรรมเนียมไปชำระที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเท่านั้นนะครับ ไม่มีการจ่ายเงินใด ๆ ที่ไปรษณีย์อีกแล้ว Pin ก็ไม่ต้องซื้อแล้ว


5. พอจ่ายเสร็จก็รอไปวันรุ่งขึ้นเลย ประมาณหลังเที่ยง ก็มาล็อกอินโปรไฟล์เพื่อทำการนัดสัมภาษณ์
อันนี้ไม่มีเมล์อะไรมาบอกคุณว่าสถานทูตพร้อมให้คุณนัดแล้ว รอหนึ่งวันก็เข้าไปทำการนัดหมายตามวันเวลาที่เราสะดวก

6. ผมเลือกคิวแรก 7 โมงเช้า (ผมเข้าด่าน รปภ. 6.45 น. สัมภาษณ์เสร็จ 7.32 น.เพราะคิวสั้น คิวหลัง ๆ ก็คงช้ากว่าแหละ เพราะตอนผมออกมาแถวเริ่มยาวแล้ว)

7. จะมี e-mail แจ้ง  Appointment Confirmation กลับมา 




หลักฐานที่ต้องนำไป 

ตามพันทิพเลย จริง ๆ แล้วผมเข้าใจว่าสถานทูตรู้ประวัติเราค่อนข้างดีทีเดียว ถ้าคุณโปรไฟล์ดีก็มีการทำงานเป็นหลักแหล่ง เขาไม่เรียกเอกสารอะไรเพิ่มเติมดอกครับ แต่ถ้าแบบการเงินไม่แน่น ยังไม่ทำงานก็คงถูกขอเพิ่มตามที่เขาต้องการ แต่ถ้าคุณแบบว่าไม่ชัวร์อะไรสักอย่าง เขาก็อาจไหว้และ Reject คุณได้ง่าย ๆ 

การเดินทาง 

รถไฟฟ้าลงสถานีเพลินจิต เดินไปออกประตู 2 และต่อแท๊กซี่ ดีและสะดวกครับ ถ้าจะเดินก็เลี้ยวซ้ายไปตามถนนวิทยุจนกว่าจะเจอคิวยาว ๆ ไม่ต้องกลัวหลง เดินประมาณ 10 นาทีเหงื่อซึม ๆ ไกลเหมือนกันเนาะ เดินตอนขากลับดีกว่าถ้าอยากเดิน

เวลาไปถึง 

30 - 40 นาทีก่อนการสัมภาษณ์พอ


ขั้นตอนที่หน้าสถานทูต

ต่อแถวรอ เตรียมฟอร์ม DS-106 กับ Passport ไว้ครับ จะมีน้อง ๆ มาเช็คคิวและเขียนเวลาให้ที่หัวของฟอร์ม พร้อมแจกบัตรเคลือบพลาสติกสี ๆ ไว้ให้ ผมได้ บัตรเบอร์ KKK สีม่วง 


ขั้นตอนรักษาความปลอดภัย

1. ถือบัตรเคลือบพลาสติกสีที่ได้ไว้พร้อมกับบัตรประชาชนหรือใบขับขี่ ตอนนี้เราก็เคลื่อนตัวตามคิวไปจนถึงปากประตู รปภ.ยื่นบัตรสีให้เพื่อเข้าไป  
2.ยื่นบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่เพื่อฝากมือถือ 1 เครื่องที่เค้าเต้อร์   อย่าเอามือถือมากกว่าหนึ่งเครื่องและกระเป๋าสะพายไปนะครับ ชีวิตคุณจะยุ่งทีเดียว เท่าที่ผมเห็นเขาถือซองสีน้ำตาลไปกัน ผมแนะนำให้คุณใช้ซองพลาสติกที่มีหลาย ๆ ช่อง เพื่อใส่บัตร และเอกสารแยกกันเป็นสัดส่วนไว้ก็จะดี
3.เอาแฟ้มหรือซองที่คุณเอาไป และของในกระเป๋าเสื้อและกระเป๋ากางเกงยกเว้นธนบัตรและเศษเหรียญออกมาใส่ในถาดเพื่อทำการสแกนโดยตัวคุณก็เดินไปหา รปภ. เพื่อทำการสแกนเหมือนในสนามบิน 
4. รับของและผลักประตูเดินเข้าส่วนในของสถานทูต

ขั้นตอนเตรียมเอกสาร

เดินไปตามทางเดินสักหน่อยจะเจอที่นั่งรอตรงสระน้ำ ถัดไปอีกนิดจะมีเค้าเต้อร์กระจก คล้าย ๆ ที่ขายตั๋วรถทัวร์ คนที่ยังไม่ถึงเวลานัดหมายก็นั่งรอ ส่วนคนที่ถึงเวลานัดแล้วก็เดินไปที่เค้าเต้อร์จัดเอกสาร จะมีเจ้าหน้าที่คนไทย 2 คนนั่งอยู่ เขาจะขอฟอร์ม DS-106 กับ Passport จัดใส่แฟ้มพลาสติกให้ ชี้ทางให้ และบอกให้เราอ่านป้ายเรื่องการจัดส่ง Passport กลับคืนให้เรา เราก็กลับหลังหันเดินตามทางเดินที่เขาชี้ ไปอ่านป้ายแล้วเดินไปที่ห้องสัมภาษณ์   มันมีเก้าอี้ดักอยู่หน้าห้องดูแล้วงงนิดหน่อย แต่เราไม่นั่งเราเข้าห้องไปเลย


ขั้นตอนสแกนลายนิ้วมือ

ในห้องนี้กงสุลกับเจ้าหน้าที่สแกนลายนิ้วมือจะอยู่รวมกัน แต่ไม่ต้องง มันจะมีสายกั้นเป็นทางเดินให้เราไปที่ช่อง 11-15 ก่อน ถ้าเจ้าหน้าที่ช่องไหนว่างเขาก็จะเรียกให้ก็เดินเข้าไป  ช่องนี้เราจะถูกสแกนลายนิ้วมือทั้งหมด วางตรง ๆ ตามที่เค้าสั่งแค่นั้นละครับ ไอ้ที่เราเพียรทำให้มือขุ่มชื้นไว้ตั้งแต่ต้นมาส่งผลดีตอนนี้แล้ว จากนั้นเขาจะขอแฟ้มพลาสติกเราไป ซักถามเราเพิ่ม ขอดูเอกสารเพิ่ม หรือขอรูปเพิ่ม เจ๊คนดังก็อยู่ช่องนี้ แต่ผมว่าถ้าเราเตรียมตัวมาดี ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ

ขั้นตอนสัมภาษณ์

พอผ่านจุดข้างต้นเราก็จะกลับหลังหันไปเข้าคิวเพื่อสัมภาษณ์กับกงสุล ซึ่งทุกท่านจะพูดไทยได้อยู่แล้ว
ลุยครับลุย ตอบให้ฉาดฉาน ถ้าเขาขอพูดภาษาอังกฤษด้วยก็น่าจะดี เพราะเขาน่าจะมั่นใจแล้วว่าคุณไม่ไปตกระกำลำบากในอเมริกา ผ่านหรือไม่ผ่านก็รู้กันตรงนี้ เขาจะบอกว่าอีกกี่วัน Passport พร้อม วีซ่า จะส่งกลับไปถึงเรา ไม่ต้องไปเขียนซองส่งไปรษณีย์อะไรอีกแล้ว สวัสดีเขาแล้วเดินกลับมาตามทางเดิมเพื่อรับมือถือที่ฝากไว้ จากนั้นจะกลับบ้านหรือลั้นลาในเมืองก็เอาที่สบายใจเลยก็แล้วกัน  


Nice to meet you อเมริกา, สวัสดีครับ 



วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558

หุ้น NWR

คืนนี้ผมง่วงและเพลียเหลือเกินจ้ะ ขอ Short Note สั้นไว้ก่อนนะจ๊ะ หุ้น NWR ร่วงและนิ่งมานาน ตอนนี้ขยับจาก ราคา 1.61 บาท ณ วันที่ 29 กันยา มาปิดที่ 1.71 บาทวันนี้วันที่ 7 ต.ค. จดไปคิดต่อกันนะจ๊ะ วันหลังผมจะให้ขอมูลเพิ่มจ้า

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ระวังต่อมลูกหมากโตจ้ะ

วันนี้ผมขอบอกข่าวร้ายแก่คุณผู้ชายทั้งหลายจ้ะ ถ้าคุณอายุเลย 40 ปีไปแล้วโอกาสที่ต่อมลูกหมากคุณจะโตจนมีปัญหากับระบบปัสสาวะมีมากขึ้นแล้ว ถ้าคุณไม่อยากขึ้นเตียงผ่าตัดเร็วกว่าที่ควรผมขอให้คุณทำตัวตามอาจารย์ผมสั่งผมดังต่อไปนี้ 
1. กินอาหารให้เป็นเวลา 
2. เคีัยวข้าวช้า ๆ ให้ละเอียด คัมภีร์จีนบอกหนึ่งคำคุณควรเคี้ยว 40 ครั้ง แต่ยุคสมัยที่เวลามันรัดตัวผมแนะนำให้คุณเริ่มเคี้ยวนานกว่าปกติอีกเท่าตัว เคี้ยว 20 ครั้งต่อคำก็ยังดี 
3. งดอาหารเย็นหลัง 4 โมงเย็น ผมต่อเวลาให้คุณนิดหน่อยเป็น 6 โมงครึ่ง
4. กินเมล็ดฟักทอง มะเขือเทศ และหรือหอยนางรมสลับกันไปมาอาทิตย์ละสักครั้งสองครั้ง กินอะไรก็ได้ใน 3 อย่างนี้ ถึงผมจะไม่ชอบน้ำผลไม้กล่องสักเท่าไหร่แต่ในกรณีที่คุณเร่งรีบน้ำมะเขือเทศกล่องก็ไม่เลวจ๊ะ

คุณผู้หญิงก็ทำตามได้ไม่หวงห้าม อย่ากินหอยนางรมบ่อยนักเป็นใช้ได้ ขอให้สุขภาพดีจงมีแด่คุณนะจ๊ะ




วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ดูเล็บ ดูสุขภาพ

เฮลโล ๆ  โปรดกรุณาก้มหน้าเลยจากหน้าจอมือถือไปพินิจพิเคราะห์เล็บคุณหน่อยจ้ะ เล็บเป็นดัชนีชี้วัดสุขภาพที่สำคัญทีเดียวเชียว เล็บของคนสุขภาพดีนั้นจะต้องราบเรียบและมันเงา ถ้าเล็บของคุณเป็นจุด เป็นคลื่นขรุขระ มีเส้นสีดำเป็นแนวยาวหรือขาดความเงา นั่นคือสัญญาณบอกคุณว่าคุณขาดสารอาหารและวิตามินที่สำคัญแล้วจ้ะ วิธีแก้แบบง่าย ๆ ที่ผมอยากให้คุณลองทำคือกินวิตามินซีวันละ 1000 มิลลิกรัม กินผลไม้รสไม่หวานจัด เช่นฝรั่ง มะละกอ แอปเปิ้ล กล้วยและผักเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าของที่คุณกิน เช่นคุณไม่กินผักและผลไม้เลย คุณก็เพิ่มเป็นกล้วยลูกเล็ก ๆ มื้อละ 1 ลูก 3 มื้อ ทำติดต่อกันสักสามเดือน เล็บของคุณจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังจากคุณเห็นผลแล้วก็ทำต่อไปนะจ๊ะ ฝรั่งว่า Keep the momentum จ้า