บางปะกงเป็นอำเภอสุดท้ายก่อนที่น้ำจากแม่น้ำบางปะกงจะไหลลงสู่ปากอ่าว สมัยก่อนปลามังกง (ชาวบ้านเรียกปลาอีกง) ซึ่งเป็นปลาวงศ์เดียวกับปลากดมีให้เห็นอยู่ดาษดื่น แต่ปัจจุบันที่อุตสาหกรรมเฟื่องฟูและชุมชนขยายตัวอย่างใหญ่โต น้ำเสียถูกปล่อยออกทางนั้นที ทางโน้นที ปลามังกงก็ค่อย ๆ หายไป สุดท้ายผมว่าปลามังกงคงเหลือแต่ชื่อจ้ะ คุณภาพน้ำที่แย่ลงทุกวัน ๆ นี้ ชาวบ้านที่เลี้ยงปลากระพงในกระชังก็เจ๊งไปเรื่อย ๆ เลิกราไปก็มาก ที่ดีหน่อยเห็นจะมีแต่สัตว์จากทะเลที่ลูกทะเลชาวบางปะกงจับมาขายสด ๆ ทุกวันที่ตลาดล่างบางปะกง
เพียงแต่ว่าชาวประมงพื้นบ้านนั้นจะอยู่ได้อีกสักกี่สิบปีผมไม่แน่ใจ สมัยก่อนสักสิบยี่สิบปีก่อนชาวบางปะกงนั้นใครมีลูกเขยทำเรือประมง คนเขาก็ว่าดี มีหน้ามีตา แต่ทุกวันนี้จะหาลูกเรือออกเรือไปด้วยกันจ่ายเขา 700 บาทยังไม่ค่อยมีคนเอา เพราะเขาต้องออกทะเลไปตั้งแต่ 4-5 โมงเย็นแล้วกลับมาราว ๆ ตี 5 ทำงานราว ๆ 12 ชั่วโมง คนไทยไม่ค่อยเอาแล้วจ้ะ ผมดูแล้วกลัวแต่ลูกทะเลจะค่อย ๆ หายไปเหมือนปลามังกงนะซีจ๊ะ เสียดาย เสียดาย
ช่วงนี้ที่สัตว์น้ำลดลงทั้งในทะเลและในแม่น้ำอาชีพอีกอย่างที่ซบเซาลงไปคืออาชีพเรือท่องเที่ยวดูปลาโลมา ช่วงที่ปลาดุกทะเลอุดมสมบูรณ์และน้ำทะเลหนุนจากปากอ่าวโลมาก็ตามมากินปลาดุกตอนหน้าหนาวแต่ปีนี้ไม่มีโลมา ปลาบางอย่างก็ทนเค็มและมลพิษได้อย่างหน้าพิศวง ผมเห็นปลากดว่ายกันปร๋อเลยจ้ะ มีอยู่คราวหนึ่งผมเอาปลาดุก ปลาหมอ ปลาไนหย่อนไปพร้อมกันที่ท่าน้ำวัดบน ปลาดุกว่ายไปสบาย ๆ ปลาหมอช็อคอยู่แปปก่อนคืนสติ แต่ปลาไนนี่ตายคาท่า สักเดือนตุลาคมปีที่แล้วนี่ผมเห็นคนตกปลาไหลน้ำจืดได้จากท่าเดียวกัน ในแม่น้ำนั้นถ้าน้ำทะเลหนุนกุ้งแม่น้ำก็จะหนีไปตามแหล่งน้ำจืด พอน้ำจืดดันมาในหน้าฝนกุ้งก็จะตามมาอยู่ตามซอกหลืบ ตามตอม่อสะพานก็ยังพอหาได้เป็นปี ๆ ไป ผู้ใหญ่ที่นับถือกันบอกว่าตอนท่านเป็นเด็กดำไปชิมน้ำก้นแม่น้ำช่วงมีน้ำจืดดันน้ำเค็มนั้นน้ำผสมกัน บางทีข้างบนเค็มข้างล่างจืดก็มี
เขียนบันทึกใว้ให้คนรุ่นหลังอ่านและคืนนี้ลาคุณ ๆ ไปด้วยภาพแสงสุดท้าย ณ ลำน้ำบางปะกงจ้ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น