วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2559

My name is James

ย้อนหลังตอนที่ผมเริ่มทำงานใหม่ ๆ ตอนปีพ.ศ. 2535 - 2536 (น้อง ๆ อย่าเดาอายุพี่นะจ๊ะ) ตอนนั้นญี่ปุ่นยังมีพลังอำนาจทางเศรษฐกิจมหาศาล คนรุ่นผมยังได้ยินคำค่อนขอดญี่ปุ่นในฐานะที่ทำสินค้าทุกอย่างขายว่าสัตว์เศรษฐกิจกันอยู่เลย โรงแรมสมัยนั้นต้องมีป้ายภาษาญี่ปุ่นกำกับไว้เหมือนที่มีภาษาจีนหรือรัสเซียตอนนี้จ้ะ ตอนจบใหม่ ๆ เราก็จะหางานทำไม่บริษัทฝรั่งก็ญี่ปุ่นหรือโรงกลั่นและปิโตรเคมีที่ตอนนั้นเริ่มจะรุ่งเรืองมากแล้ว ภาษาที่เราเลือกที่จะเรียนเพิ่มเติมถ้าไม่เป็นภาษาอังกฤษก็ภาษาญี่ปุ่น คนไทยที่ทำงานในบริษัทญี่ปุ่นรุ่นเก่า ๆ ที่พูดญี่ปุ่นได้ดีมีเยอะมากมาย แต่ปัจจุบันที่อำนาจทางเศรษฐกิจที่ลดลงทำให้อำนาจทางภาษาของญี่ปุ่นลดลงตามไปเยอะทีเดียว ขณะที่ภาษาอังกฤษที่แม้จำนวนคนใช้จะเป็นรองภาษาจีน แต่ในประเทศของเราภาษาในการสื่อสารกลางของชนชาติต่าง ๆ ตามบริษัทห้างร้านก็ใช้ภาษาอังกฤษกันเป็นหลักกัน วันนี้ผมจึงขอสอนการแนะนำตัวเองให้น้อง ๆ และคุณ ๆ ไว้ใช้กันให้ฝรั่งทึ่งจ้ะ น้อง ๆ ที่จบใหม่ ๆ มักไม่เข้าใจเวลาฝรั่งพูดเพราะเราไม่เข้าใจหลักการเชื่อมเสียงของฝรั่งเพราะเวลาเขาพูดเขาลิ๊งค์เสียงจากคำไปหาคำไม่ได้พูดทีละคำเหมือนเรา สมมติว่าน้องเจอฝรั่งมะกันชื่อเจมส์นะ ลองแอบฟังเขาพูดแนะนำตัวว่า My name is James ดูสิจ้ะ เขาไม่ได้พูด มาย เนม อิส เจมส์ นะ เขาพูด My na miz James มาย เน มิซ เจมส์ ต่างหากละ เข้าใจแล้วนะ เจอฝรั่งคราวหน้าเราก็ลุยให้เขาทึ่งเลยว่า มาย เน มิซ ....(ชื่อเรา)

ผมดูบอลยู -23 ชิงแชมป์เอเชียระหว่างซาอุกับไทย เชียร์ทีมไทยไปเขียนไป ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยด้วย

ฝันดีราตรีสวัสดิ์จ้ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น